รายละเอียดเพิ่มเติม
..เมื่อเกิดโรคระบาดไวรัส โควิด-19 ก็ต้องยอมรับนะครับว่าได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของเราแทบทุกคน สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก ไม่เว้นแต่ประเทศไทย ดังนั้น การที่จะรอดจากวิกฤตในครั้ง หลายธุรกิจเริ่มมีการปรับตัว เริ่มมีการใช้กลยุทธทางการตลาดออนไลน์มากขึ้น แทนรูปแบบการสื่อสารแบบเดิมหรือขายแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องปรับเพื่อความอยู่รอดเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเช่นกัน >> GroupM และเอเยนซี่ในเครืออย่างมายด์แชร์ มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ พร้อมพาร์ตเนอร์อย่าง คันทาร์ และ ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จับมือ สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด-19 พร้อมเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติสำหรับนักโฆษณาและการตลาด เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ผ่านรายงาน Coronavirus in Thailand – Trends & Implications for Brands and Marketers พบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างไรในช่วงเวลาของโควิด-19 คนไทยทั่วประเทศเริ่มมีความตระหนักและมีการกล่าวถึงโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2563 โดยเฉพาะบนสื่อโซเชียลมีเดีย และการตระหนักและการกล่าวถึงโควิด-19 ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นภายหลังจากที่มีการเรียกชื่อไวรัสนี้ใหม่เป็น โควิด-19 และมีความตื่นตัวหลังจากมีข่าวผู้เสียชีวิตรายแรกซึ่งการพูดถึงเรื่องโควิด-19 ของคนไทย จากข้อมูลของไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) ผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE พบว่าระหว่างเดือนมกราคมจนถึงกลางเดือนมีนาคม มีการกล่าวถึงเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 148 ล้านข้อความ โดยแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้ในการพูดและกล่าวถึงสถานการณ์นี้คือ Twitter อยู่ที่ 65% และอีก 20% อยู่บน Facebook การตระหนักถึงสถานการณ์โควิด-19 ของคนไทย กล่าวคือ เรื่องราวโควิดนั้นได้มีการพูดถึงบน Twitter มากขึ้นเกิน 50% ซึ่งสูงกว่าเฟสบุ๊ค หลายคนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นในเรื่องความปลอดภัยและสถานภาพทางการเงินของตัวเองมากขึ้น โดยในรายงานอ้างอิงผลสำรวจของคันทาร์ พบว่า • 66% ของผู้บริโภคไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญในด้านการวางแผนการใช้เงิน • 54% เป็นห่วงถึงอนาคตเศรษฐกิจประเทศไทย • 52% เริ่มมีความกังวลต่อสุขภาพของตนเอง และคนไทยมีการใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น โดย 52% เริ่มสมัครดู Streaming แบบจ่ายเงิน 44% เริ่มสั่งอาหารออนไลน์ (หรือสั่งมากขึ้น) และการสั่งอาหารออนไลน์ที่มีจำนวนมากขึ้นทำให้ยอดการสั่งซื้ออาหารผ่านช่องทางนี้เติบโตถึง 116% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติที่ผ่านมา (อ้างอิง https://marketeeronline.co/archives/157860) สำหรับในธุรกิจกรอบรูปก็ได้รับผลกระทบไม่ใช่น้อยจากการสอบถามโรงงานในประเทศไทยพบว่า หลายโรงงานต้องปิดทำการอย่างน้อย 1 เดือน ทั้งนี้เพราะต้องปิดตามนโยบายรัฐ หรือยอดขายตก เนื่องจากลูกค้าโดยตรงของโรงงาน กรอบรูป ส่วนใหญ่เป็น ร้านถ่ายรูป หรือร้านเวดดิ้ง ทั้งนี้เพราะในช่วงที่มีการระบาด ประชาชนต่างระมัดระวังในการใช้เงินสด และงดจัดงานอีเว้น งานแต่งงาน อีกทั้งหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ ก็หยุดหรือปิด >>แต่ในขณะเดียวกันก็มีธุรกิจที่เกี่ยวกับกรอบรูปที่ยังไปต่อได้เรื่อยๆ นั่นก็คือ การรับวาดภาพเหมือน วาดภาพการ์ตูนน่ารักๆ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากในโลกออนไลน์ บางคนมีความรู้ทางด้านศิลปะ หรือบางคนมีใจรักทางศิลปะเป็นพื้นฐาน อยู่แล้วก็ฝึกฝนกันไม่ยากสามารถทำรายได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ซึ่งธุรกิจดังกล่าวแยกเป็น บริการรับวาดภาพเหมือน ภาพการ์ตูน กับการตกแต่งภาพใส่ข้อความจัดรูปแบบให้เข้ากับภาพ โดยจะมีทั้งการวาดภาพอย่างเดียว หรือวาดภาพใส่กรอบให้พร้อมเสร็จก็สามารถเลือกได้ โดยมีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 100-150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดภาพ หรือหากจะให้ใส่กรอบให้พร้อมเสร็จก็มีกรอบรูปไว้บริการเช่นกัน ขนาดนิยมส่วนมากจะเป็นขนาด 4×6 นิว 6×8 นิ้ว A5 A4 และ A3 ทั้งนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการนั้นจะนำไปเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กันในโอกาสสำคัญๆ เช่น ในวันจบการศึกษา ในวันครบรอบวันเกิด วันแต่งงาน เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับการพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปัจจุบันได้หันไปใช้สื่อออนไลน์กันมากขึ้น รูปแบบการทำการตลาดส่วนใหญ่สื่อออนไลน์ ได้แก่เฟสบุ๊ค หรือ Twitter เป็นหลัก สินค้าที่เสร็จแล้วจะส่งมอบงานกันโดยทางการจัดส่งทางบริษัทขนส่ง กลุ่มที่นิยมทำอาชีพนี้ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่นตอนต้นถึงวัยรุ่นตอนปลาย นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ข้าราชการ พนักงาน ที่ต้องการหารายได้เสริม กรอบรูปที่นิยมส่วนมาก จะเป็นกรอบรูปสีขาว ขอบกว้าง 0.5 นิ้ว และกรอบรูปสีขาว ขอบกว้าง 1 นิ้ว เท่านั้น และมีบ้างที่เลือกใช้กรอบรูปสีดำ สีน้ำตาล แต่ยังเน้นเป็นแนวกรอบโมเดิร์นคือ กรอบเรียบไม่มีลวดลาย จากการสอบถามลูกค้าของเราที่ทำธุรกิจด้านนี้เล่าให้ฟังว่า ถึงแม้จะมีผลกระทบจากโควิดบ้างแต่ก็ยังพอไปต่อได้เรื่อยๆ เพราะลูกค้ายังสามารถจ่ายได้เพราะราคาไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ ที่ต้องเลือกเป็นของขวัญให้กัน การให้ภาพศิลปะและกรอบรูปนั้นสามารถเก็บเป็นความทรงจำได้ดีกว่ามีความหมาย เพราะสามารถสร้างให้มีเรื่องราวได้จดจำผ่านภาพและข้อความ >>ทุกอาชีพล้วนได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน อยู่ที่เราจะปรับตัวปรับและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรหากเรามองหาโอกาสและทางรอดด้วยสมองและปัญญา พิจารณาถึงจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าที่เรามี เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ครับ ..ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านรอดพ้นจากวิกฤตในครั้งนี้ครับ หากท่านใดสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายกรอบรูป หรือสนใจวาดภาพใส่กรอบรูปก็สามารถติดต่อมาได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ เบอร์ติดต่อ 089-111-5991 คุณ อมร กุลด้วง ไลน์ am-one (ขอบคุณภาพประกอบเรื่องสวยๆ จากอาจารย์ อัจฉรา พืชสิงห์ โรงเรียนวัดวังน้ำขาว หากสนใจผลงานก็ติดต่อมาได้นะครับ